วันที่ 17 ก.ย.58 ที่ถนนทางเข้าศาลากลางจังหวัดเชียงราย นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ได้ตรวจต้นซากุระที่ทางจังหวัดเชียงราย ได้นำมาจากประเทศญี่ปุ่นและทำการปลูกเรียงราย บริเวณข้างถนนทางเข้าศาลากลางพบว่า พบว่าเริ่มมีดอกบานจนเห็นดอกสีชมพูอย่างชัดเจนแล้วจำนวน 1 ต้น ทำให้ผู้ที่พบเห็นรู้สึกแปลกใจไป และพากันมาถ่ายรูปเก็บไว้ เนื่องจากดอกซากุระจะผลิดอกและบานที่ประเทศญี่ปุ่นในช่วงเดือนเมษายน แต่ปรากฎว่าต้นที่ปลูกที่ศาลากลางจังหวัดเชียงราย กลับเบ่งบานในช่วงฤดูฝน และยังพบมีการร่วงของใบซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการเตรียมผลิดอกในต้นอื่นๆ ด้วย ทำให้ทางจังหวัดได้มีการดูแลรักษาต้นและดอกเอาไว้เป็นอย่างดีแล้ว ทางด้านมหาวิทยาลัยพะเยาได้นำคณะเจ้าหน้าที่มาศึกษาดูเพื่อเตรียมนำไปปลูกที่ จ.พะเยา
นายพงษ์ศักดิ์ วังเสมอ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าวว่า ดอกซากุรุดังกล่าวมีการปลูกที่ศาลากลางจังหวัดตามโครงการถนนสายซากุระ เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เนื่องในวันที่ 5 ธันวาคม 2557 ที่ผ่านมา โดยทางนายโกโบริ ทาเคโอะ ผู้บริหารจากสมาคมซากุระญี่ปุ่นได้มอบต้นกล้าซากุระให้จำนวน 1,000 ต้น และทางจังหวัดได้แบ่งปลูกที่ศาลากลางจังหวัดจำนวน 200 ต้น ที่เหลือกระจายไปปลูกตามสถานที่ต่างๆ ซึ่งในช่วงแรกก็มีความกังวลเรื่องการดูแลรักษาแต่ทางนายโกโบริได้ให้คำแนะนำในการดูแลจึงทำให้ต้นเติบโตขึ้น โดยตามปกติต้นซากุระจะผลิดอกเมื่อมีอายุได้ 3-5 ปีขึ้นไปแต่ปรากฎว่าหลังจากปลูกได้ 8-9 เดือนกลับผลิดอกแล้ว
“นอกจากนี้ยังมีต้นที่ทิ้งใบและมีดอกตูมเตรียมจะผลิออกเพิ่มเติมอีกด้วย ทำให้ทางจังหวัดต้องศึกษาการผลิดอกของสายพันธุ์ต่างๆ เพื่อการดูแลรักษา เนื่องจากพันธุ์ที่ผลิดอกในครั้งนี้คือพันธุ์ไทเรียว ขณะที่พันธุ์ที่ได้รับมอบแล้วนำมาปลูกนั้นมีจำนวน 3 สายพันธุ์คือพันธุ์ไทเรียว พันธุ์คาวาดุ และพันธุ์ซูเซนจิคาน ซึ่งกรณีของพันธุ์ไทเรียวนั้นตามปกติจะบานที่ประเทศญี่ปุ่นราวเดือน เม.ย.โดยจะทิ้งใบออกหมดและเปลี่ยนเป็นดอกเต็มต้นแทน ซึ่งการเบ่งบานของดอกซากุระจากสายพันธุ์ต้นตำรับจากประเทศญี่ปุ่นดังกล่าวถือเป็นสัญญานที่ดีของจังหวัดว่าดอกซากุระสามารถเบ่งบานได้จริงและจะกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดต่อไป” ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย กล่าว
Comments are closed, but trackbacks and pingbacks are open.